เบลลิงแฮม จะรุ่งหรือร่วงย้อนรอยแข้งอังกฤษเคยเล่นให้เรอัลมาดริด
เบลลิงแฮม จะรุ่งหรือร่วงย้อนรอยสถานการณ์บนตารางคะแนน
เบลลิงแฮม จากกระแสข่าวจากหลายสื่อดังที่รายงานออกมาก็พอจะฟันธงได้แล้วว่าจู๊ดเบลลิงแฮมกองกลางดาวดังชาวอังกฤษวัย 19 ปี จะอำลาโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ ย้ายไปร่วมก๊วนสโมสรยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุอย่างเรอัลมาดริดหลังจบฤดูกาลนี้ซึ่งจะกลายเป็นแข้งเลือดผู้ดีลำดับที่หกที่ได้สวมยูนิฟอร์มราชันชุดขาว” และนี่คือห้านักเตะสัญชาติอังกฤษที่เคยไปโชว์ฝีเท้าในถิ่นซานติอาโกเบร์นาเบวก่อนหน้าบลลิงแฮมซึ่งก็มีทั้งสำเร็จและล้มเหลวคละเคล้ากันไปแข้งอังกฤษที่เคยเล่นให้เรอัลมาดริดถ้าสถานการณ์บนตารางคะแนนยังเป็นอย่างเดิมมันก็อาจไม่เสียหายแต่นาทีนี้มันไม่ใช่เสียแล้วความไม่เด็ดขาดและกังวลของยูไนเต็ดถูกลงโทษด้วยการไม่มีคะแนนติดมือเลยในสองเกมล่าสุดมันยิ่งเจ็บปวดขึ้นไปอีกเมื่อความพ่ายแพ้ทั้งสองครั้งเกิดจากความผิดพลาดเฉพาะบุคคล ทั้งแฮนด์บอลเสียจุดโทษของ ลุค ชอว์ ในเกมแพ้ไบรท์ตัน และการปัดบอลไม่ดีของ เดบิด เด เคอา
นี่คือนักฟุตบอลอังกฤษคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่เคยเล่นให้ เรอัล มาดริด โดยเจ้าตัวย้ายจาก เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไปร่วมทัพ “ราชันชุดขาว” ในปี 1979 ซึ่งมีแค่ฤดูกาลแรกเท่านั้น ที่ได้ลงเล่นสม่ำเสมอ ก่อนเจอปัญหาบาดเจ็บรุมเร้า จนได้โชว์ฝีเท้าเพียงน้อยนิด และย้ายออกไปในปี 1984 (ซีซั่นสุดท้าย 1983-84 ถูกปล่อยตัวให้ สปอร์ติ้ง กิฆอน ยืมใช้งาน) โดยที่ได้แชมป์ ลา ลีกา 1 สมัย และ โกปา เดล เรย์ 2 สมัยหลังจากนั้นราว 5 ปี ระหว่างที่ค้าแข้งกับ ราโย บาเยกาโน่ คันนิงแฮม ต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้าตอนอายุ 33 ปี จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กรุงมาดริดในเกมแพ้เวสต์แฮมไม่ใช่ภาพที่ดีแน่ เพราะมันหมายถึงเมื่อคุณเสียสมาธิ หรือย่อหย่อนแค่ในบางพื้นที่ คุณถูกฝ่ายตรงข้ามเล่นงานความวิตกน่าจะยังเกาะกุมอยู่ในใจของนักเตะปีศาจแดง พวกเขาต้องการเกมที่จะพิชิตความวิตกนั้นให้ราบ และมันต้องเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดส่วนนิวคาสเซิ่ลยังคงมีความมั่นใจให้เห็น พวกเขามีฟุตบอลของตัวเอง มีแรงศรัทธาจากแฟนบอลของตัวเอง มีสปิริตความกลมเกลียวที่ช่วยได้ในยามที่ยากลำบากหรือต้องการพลังเสริมการแพ้อาร์เซน่อลเกิดขึ้นได้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทีมปืนใหญ่คือทีมระดับลุ้นแชมป์ และยังเน้นเต็มที่กับผลการแข่งขันทุกนัด แม้สถานการณ์บนตารางคะแนนจะน่าหวาดเสียวขึ้นทว่าตลอดฤดูกาลที่ผ่านมานิวคาสเซิ่ลไม่เคยแสดงให้เห็นว่าแผ่วหรือมีปัญหาในห้องแต่งตัวที่สะท้อนออกมาสู่เกมในสนามเลยสปิริตยังคงหนักแน่นสำหรับทีมสาลิกา ผมคิดว่าในภาพรวมแล้ว
ย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล แบบฟรีๆ ในช่วงซัมเมอร์ปี 1999 ถึงแม้ไม่ใช่แข้งระดับแกนหลักที่ลงสนามเป็นตัวจริงทุกนัด
แต่ “แม็คก้า”มักจะเป็นตัวทีเด็ด ทำประตูสำคัญๆ ให้เรอัลมาดริดเสมอจนกลายเป็นที่รักของบรรดาแฟนบอลราชันชุดขาวและหนึ่งในประตูที่อยู่ในความทรงจำของหลายๆคนคือลูกกระโดดสลับขายิงในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบชิงชนะเลิศที่เรอัลมาดริดพิชิตบาเลนเซีย 3-0 ในฤดูกาล 1999-2000แม็คมานามาน อยู่กับ เรอัล มาดริด 4 ฤดูกาลและประสบความสำเร็จไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยตำแหน่งแชมป์ลาลีกา 2 สมัยซูเปร์โกปาเดเอสปันญ่า 1 สมัยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัยพวกเขายังดูแน่นอนที่สุดเมื่อเทียบในหมู่ทีมที่ลุ้นท็อปโฟร์ด้วยกันเหลือเพียงประสบการณ์การเบียดเสียดสู้แรงกดดันของการชิงตั๋วไปแชมเปี้ยนส์ ลีกที่เป็นคำถามสำหรับพวกเขาและแน่นอน4เกมสุดท้ายของฤดูกาลจะให้คำตอบขณะที่ไบรท์ตันกลายเป็นทีมที่มีผลการแข่งขันเหวี่ยงไปมามากที่สุด พวกเขาชนะ 3 แพ้ 3 ใน 6 เกมหลังสุดแต่การแพ้ น็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ทั้งที่ขึ้นนำไปก่อนและถูกเอฟเวอร์ตันบุกถล่ม 1-5 ต่อหน้ากองเชียร์ในเอเม็กซ์ สเตเดี้ยมคือเรื่องเสียหายหนักจริงๆรับมือทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินเมื่อคืนวันจันทร์คือเกมที่ไบรท์ตันต้องได้สามคะแนนเท่านั้นเพื่อเพิ่มความกดดันใส่นิวคาสเซิ่ล แมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล เป็นภาคบังคับที่ต้องชนะก็ไม่ผิดเพราะไม่เพียงสภาพของเอฟเวอร์ตันแย่เหลือหลายเท่านั้นแต่โปรแกรมเตะที่เหลือของไบรท์ตันยังหนักกว่าเพื่อนเมื่อต้องเจอกับทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาร์เซน่อล
และไปเยือน เซนต์ เจมส์ พาร์ค กับ วิลล่า พาร์คที่สำคัญความปราชัยในเกมนี้ทำให้ความได้เปรียบ
จากเกมตกค้างในมือหายไปกลายเป็นว่าทีมนกนางนวลมีสถานการณ์เป็นรองที่สุดในกลุ่มสี่ทีมลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์แม้ว่า เฟร็ด จะโดนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่นไม่แตกต่างกับ แม็คโทมิเนย์ แต่ดูเหมือนว่าเขาน่าจะมีประโยชน์กับทีมหากได้คู่หูแดนกลางที่เก่งฉกาจ เหมือนกรณีที่เล่นร่วมกับกาเซมีโร่ซึ่งเจ้าตัวแสดงให้เห็นมาแล้วในหลายๆ เกมโดยเฉพาะแมตช์ชนะ บาร์เซโลน่าในศึกยูโรปาลีกด้วยเหตุนี้เฟร็ดยังมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองอีกอย่างน้อย 1 ซีซั่นนี่คือหนึ่งในบรรดาแข้งซูเปอร์สตาร์ของเรอัลาดริดยุค”กาลาติกอส” ชุดแรก เคียงบ่าเคียงไหล่กับหลุยส์ ฟิโก้โรนัลโด้และ ซีเนดีนซีดานโดยเบ็คแฮมย้ายมาจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยค่าตัวราว 37 ล้านยูโร (ประมาณ 1,369 ล้านบาท) เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2003 ซึ่งถึงแม้อยู่กับทีม 4 ฤดูกาลเหมือนกับแม็คมานามานแต่ประสบความสำเร็จไม่มากเท่าเพราะ เบ็คแฮม ได้แค่แชมป์ลาลีกาและซูเปร์โกปาเดเอสปันญ่าอย่างละสมัยเท่านั้นแม้ว่าซาบิเซอร์ จะย้ายมาจากบาเยิร์น มิวนิค แบบยืมตัวช่วงเดือนมกราคมก็ตาม แต่ผลงานของเขาถือว่าสอบผ่านโดยเฉพาะการรับบทบาทมิดฟิลด์สไตล์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ และยังคอยเติมเกมขึ้นไปยิงประตูได้ด้วย ถ้าหากค่าตัวของนักเตะสมน้ำสมเนื้อเชื่อว่าเทนฮากคงยินดีที่จะซื้อมาร่วมทัพแบบถาวรมีหลายครั้งที่อันโตนี่โดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องสไตล์การเล่นแบบมิติเดียว แต่เขาก็ยังถือเป็นนักเตะที่ทักษะสูงโดยเฉพาะความเร็วซึ่งหากเล่นเข้าฟอร์มก็ยากจะรับมือได้
ด้วยเหตุนี้หากสามารถปรับทัศนคติและขยันฝึกซ้อม เชื่อว่า แข้งบราซิเลียน จะงัดทีเด็ดออกมาให้เห็นอีกเพียบคงถึงเวลาที่
มาร์กซิยาลต้องไปหาโอกาสในการเล่นกับสโมสรอื่นแล้วแน่นอนว่าเรื่องความสามารถเชิงลูกหนังไม่มีใครปฏิเสธนักเตะรายนี้แต่เรื่องสภาพร่างกายของเขาต้องบอกเลยว่ามันเปราะบางเหลือเกินและการที่เขาไม่ค่อยฟิตอย่างต่อเนื่องจึงไม่สามารถที่จะฝากผีฝากไข้เอาไว้ได้เลยนี่คือนักเตะที่เทนฮากต้องการอย่างมาก เพราะผลงานที่สุดยอดของทีมในซีซั่นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเล่นที่ท็อปฟอร์มของ”แรชชี่”แต่กระนั้นการที่ต้องพึ่งพานักเตะรายเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้ทีมจึงต้องหาหน้าเป้าชั้นดีมาช่วยแบ่งเบาภาระการยิงประตูฉะนั้นชื่อของแฮร์รี่เคจึงเป็นเบอร์ 1 ในใจนายใหญ่เลือดดัตช์ซัมเมอร์นี้ดาวยิงร่างยักษ์ มีบุญวาสนาเหลือเกินที่ได้มาเล่นกับแมนฯยูไนเต็ดแม้จะด้วยสัญญายืมตัวแต่เขาก็หวังจะสร้างผลงานให้ดีที่สุดเพื่อจะได้สัญญาถาวรแต่การที่ไม่สามารถพึ่งพาการทำประตูได้คงทำให้สโมสรไม่เลือกควักเงินเพื่อซื้อหัวหอกโมกขศักดิ์มาเก็บไว้ให้เปลืองค่าเหนื่อยแน่นอนเรอัลมาดริดที่ตอนนั้นมีแข้งระดับโลกในทีมเพียบเจียดเงินเพียงแค่8ล้านปอนด์ (ประมาณ 344 ล้านบาท) พร้อมกับส่งอันโตนิโอนูนเญซ ให้ลิเวอร์พูล เพื่อแลกกับการคว้าตัวโอเว่นมายังถิ่นซานติอาโกเบร์นาเบวในช่วงซัมเมอร์ปี 2004 แต่น่าเสียดายที่ “เบบี้โกล” แจ้งเกิดกับเรอัลมาดริดไม่สำเร็จเพราะเป็นเพียงแค่กองหน้าตัวเลือกท้ายๆต่อจากโรนัลโด้และราอูลกอนซาเลซ
